วารีบำบัด(hydrotherapy)
วารีบำบัด(hydrotherapy)
เป็นการใช้น้ำในการรักษาโรคและบำบัดอาการปวดเกร็งของกล้ามเนื้อ ช่วยให้ผ่อนคลายความตึงเครียด อาการเมื่อยล้า อาการปวดตามข้อ ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและช่วยกำจัดของเสียออกจากร่างกาย
มีการค้นพบหลักฐานในการทำวารีบำบัด มานานกว่า 2000 ปี ในยุคโรมันสมัยฮิปโปเครติส ซึ่งภายหลังได้แพร่หลายสู่ยุโรป และมีการพัฒนารูปแบบการใช้วารีบำบัดกันหลากหลาย เช่น การแช่ตัวด้วยน้ำร้อน น้ำเย็น การอบซาวน่า การแช่อ่างจากูชี การใช้ฝักบัวแรงดันสูง เป็นต้น
ความร้อนความเย็นมีผลต่อร่างกายคือ
ความร้อน มีผลในเชิงกระตุ้นเร้า แต่มีผลสืบเนื่องภายหลังให้ง่วง เศร้าซึม อ่อนล้า
ความเย็น มีผลในเชิงกระตุ้นเร้า แต่มีผลสืบเนื่องภายหลังให้ร่างการสดชื่นแจ่มใส กระปรี้กระเปร่ายิ่งขึ้น
ดังนั้นในการทำวารีบำบัดจึงมีการตบท้ายด้วยน้ำเย็นเสมอ
ร่างกายมนุษย์จะตอบสนองต่อน้ำที่มีอุณหภูมิและแรงดันที่แตกต่างกัน 2ขั้นตอนคือ
ขั้นตอนแรก เป็นปฏิกิริยาตอบสนองของร่างกายในการป้องกันตัวเองจากสิ่งคุกคามภายนอก เช่น เมื่อผิวหนังสัมผัสความเย็น ผิวหนังจะหดตัวเพื่อให้เส้นเลือดตีบตันเพื่อป้องกันการสูญเสียความร้อนเฉพาะที่ ตรงกันข้ามเมื่อผิวหนังสัมผัสความร้อน ผิวหนังจะขยายตัวให้เส้นเลือดขยายตัวเพื่อต้านความร้อน
ขั้นตอนที่สอง หลังจากช่วงแรกประมาณ 20 นาที จะเกิดปฏิกิริยาตรงกันข้าม เช่น
เมื่อผิวหนังสัมผัสความเย็น ช่วงแรกจะทำให้เส้นเลือดผิวหนังระดับตื้นตีบแต่ระดับลึกจะขยายตัวทำให้ผิวหนังซีด ช่วงต่อมาเส้นเลือดระดับตื้นจะขยายตัวและระดับลึกจะตีบทำให้ผิวหนังกลายเป็นสีแดง
เมื่อผิวหนังสัมผัสความร้อน ช่วงแรกจะทำให้เส้นเลือดผิวหนังระดับตื้นขยายตัวแต่ระดับลึกจะตีบทำให้ผิวหนังแดง ช่วงต่อมาเส้นเลือดระดับตื้นจะตีบและระดับลึกจะขยายตัวทำให้ผิวหนังซีด
ดังนั้นเพื่อประโยชน์สูงสุดในการทำวารีบำบัดควรใช้เวลาไม่เกิน 20 นาที
ข้อควรระวังในการทำวารีบำบัด
ไม่เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดหัวใจและสตรีมีครรภ์